ในสมัยก่อน
ยังไม่มีถนนหนทาง บ้านเรือนราษฎรจะอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ และใช้แม่น้ำโดยยานพาหนะทางเรือ เป็นเส้นทางคมนาคมไปมาหาสู่กันและเช่นเดียวกันพระสงฆ์ ก็จะใช้เรือพายบิณฑบาต ไปรับอาหารจากชาวบ้านซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งในช่วงเวลานั้นจึงไม่มีการเดินบิณฑบาต
จากการบอกเล่าของผู้สูงอายุ ซึ่งมีอายุ 80 ปีกว่า บอกว่าที่จัดให้มีการตักบาตรกลางน้ำขึ้น โดยนิมนต์พระสงฆ์ทั้งหมดพายเรือมารับอาหารนั้น สาเหตุเนื่องมาจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง ชาวบ้านไม่ว่างไปทำบุญที่วัดเพราะติดฤดูกาลทำนา ชาวบ้านจะไปทำนาโดยไปสร้าง ขนำโรงนา เป็นที่พักชั่วคราว ทำนาเสร็จจึงจะกลับมาบ้าน จึงว่างเว้นจากการทำบุญตักบาตรไป เมื่อว่างจากการทำนาจึงนิมนต์พระมารับบิณฑบาตพร้อมกันโดยจะเตรียมข้าวสารอาหารแห้ง อาหารสดมาตักบาตรกัน เรียงรายไปตลอดลำน้ำ โดยกำหนดวันทำบุญไว้เป็นการแน่นอน คือทุกวันแรม 12 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี
ปัจจุบัน มีกิจกรรม ชักพระ ทอดผ้าป่า เล่นเพลงเรือ เพลงพื้นบ้าน และร่วมปิดทองไหว้พระหลวงพ่อสีแสง พร้อมชมระฆังโบราณอายุกว่า 100 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น